ตลาดหลักทรัพย์ฯ แจ้งเตือนวันสิ้นสุดตอบรับคำเสนอซื้อหุ้น SCB ก่อนเป็นยานแม่

ตลาดหลักทรัพย์ฯ แจ้งเตือนวันสิ้นสุดตอบรับคำเสนอซื้อหุ้น SCB ชี้วันสุดท้าย 18 เม.ย. แจงการซื้อหุ้น SCB มาขายให้ SCBX ทำได้ถึงวันที่ 11 เม.ย.

วันที่ 7 เมษายน 2565 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) แจ้งเตือนสิ้นสุดเวลาตอบรับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ของธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) โดยบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ทำคำเสนอซื้อ ภายในวันที่ 18 เม.ย. 2565 ซึ่งในวันที่ 12 เม.ย. 2565 จะเป็นวันที่ซื้อหลักทรัพย์ฯในตลาดหลักทรัพย์และไม่สามารถนำมาเสนอขายผู้ทำคำเสนอซื้อได้

ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นของ SCB ที่ตอบรับคำเสนอซื้อจะได้รับชำระเป็นหุ้นสามัญที่ออกใหม่ของบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) อัตราส่วนการแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์เท่ากับ 1 หุ้นสามัญหรือหุ้นบุริมสิทธิของ SCB ต่อ 1 หุ้นสามัญที่ออกใหม่ของบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) โดยวันที่ 11 เม.ย. 2565 เป็นวันสุดท้ายที่จะซื้อหุ้นสามัญหรือหุ้นบุริมสิทธิของ SCB ในตลาดหลักทรัพย์ฯและสามารถนำมาเสนอขายให้แก่บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) ได้

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะประกาศวันที่รับหุ้นสามัญที่ออกใหม่ของบริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในวันเดียวกันกับวันที่ประกาศเพิกถอนหลักทรัพย์ของ SCB

ค่าเงินบาทวันนี้ (7 เม.ย.) อ่อนค่าที่ 33.57 บาท บทวิเคราะห์ล่าสุด

ค่าเงินบาทวันนี้ (7 เม.ย.) เปิดตลาดอ่อนค่าที่ 33.57 บาท โดยกรอบแนวรับที่ 33.50 บาท แนวต้าน 33.70 บาท

วันที่ 7 เมษายน 2565 รายงานจากห้องค้าเงิน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทวันนี้ (7 เม.ย.) เปิดตลาดอ่อนค่าที่ 33.57 บาทต่อดอลลาร์ เมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดสิ้นวันทำการก่อนหน้า โดยกรอบการเคลื่อนไหววันนี้คาดการณ์แนวรับที่ 33.50 บาท แนวต้านที่ 33.70 บาท

โดยปัจจัยขับเคลื่อนตลาดมาจากรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณการลดขนาดงบดุลสูงสุดที่ 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน ซึ่งจะเริ่มในเดือน พ.ค.นี้ พร้อมพิจารณาขึ้นดอกเบี้ย 50bsp

ขณะที่เงินเฟ้ดด้านอุปทาน เพิ่มแรงกดดันให้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีโอกาสขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย.นี้

ด้านสงครามรัสเซียกับยูเครน ยังขัดแย้งต่อเนื่อง โดยเซเลนสกี้ยกระดับความขัดแย้งไปสู่สหประชาชาติ (ยูเอ็น)

ส่วนปัจจัยในประเทศ เงินเฟ้อไทยในเดือน มี.ค.เพิ่มขึ้น 5.73% ต่อปี (YoY) สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 5.55%YoY

ด้านปัจจัยที่ต้องติดตามในช่วงที่เหลือของสัปดาห์นี้ ได้แก่ การประชุมนโยบายการเงินอินเดียในวันศุกร์

อ้างอิง
https://www.prachachat.net/finance