PLANB กำไรปี64 ที่ 64 ล้าน ทยอยฟื้นท่ามกลางโควิด

“แพลน บี” ฟื้นตัวสร้างกำไร 64 ล้าน รวมรายได้กว่า 4,607 ล้าน ทยอยฟื้นตัวท่ามกลางสถานะการณ์โควิด-19 ที่ยืดเยื้อตลอดปี

บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB รายงานว่า ในปี 2564 สถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ของไวรัส COVID-19 สร้างการเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอน ส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยและต่างประเทศ

บริษัทขับเคลื่อนธุรกิจผ่านวิกฤตและความท้าทายโดยการดำเนินธุรกิจขององค์กร มุ่งเน้นความยืดหยุ่นพร้อมรับความเปลี่ยนแปลง ต่อยอดจุดแข็งด้านเครือข่ายโฆษณานอกที่อยู่อาศัยที่ครอบคลุมที่สุดในประเทศไทย และรักษาฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง

พร้อมทั้งดูแลความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยของบุคลากรและช่วยเหลือชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยดำเนินการจัดหาวัคซีนป้องกันไวรัส COVID-19 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้พนักงานและสร้างความเชื่อมั่นในการขับเคลื่อนธุรกิจให้ลูกค้า คู่ค้า และผู้มีส่วนได้เสีย ทังนี้ แม้สถานการณ์

แม้ว่า COVID-19 จะเกิดขึ้นอย่างยืดเยื้อในปี 2564 อย่างไรก็ตาม ด้วยความสามารถในการปรับตัวอย่างรวดเร็วของแพลนบี พร้อมกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ดีขึ้นในไตรมาส 4/2564 ส่งผลกระทบเชิงบวกโดยตรงต่อการใช้เม็ดเงินสื่อโฆษณาของแบรนด์สินค้า
ทำให้ผลประกอบการของแพลนบีฟื้นตัวและสามารถสร้างกำไรสุทธิในปี 2564 ได้อีกครั้งที่ 64 ล้านบาท

ขณะที่ ผลประกอบการธุรกิจในไตรมาส 4/2564 มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด (V-Shaped) เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ธุรกิจทยอยกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นหลังสถานการณ์ COVID-19 เริ่มคลี่คลาย รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่เกิดขึ้นในไตรมาส 4/2564 ส่งผลให้หลายแบรนด์สินค้าทยอยกลับเข้ามาลงทุนในสื่อโฆษณาอีกครั้ง

ทั้งนี้ บริษัทยังคงเหลือเงินสดปลายปี 2564 จำนวนกว่า 1,986 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าขยายการลงทุนสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัย ธุรกิจด้านสปอร์ต มาร์เก็ตติ้ง ซึ่งปัจจุบันมีด้วยกัน 5 ธุรกิจ คือ International Broadcasting, Combat Sports, Football, Esports และ Running รวมถึงพัฒนา Content คุณภาพด้านกีฬาบนพื้นที่จอทั่วประเทศไทย นำเสนอสื่อโฆษณาแบบครบวงจรที่ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิต ทุกการเดินทาง และทุกไลฟ์สไตล์ เพื่อรองรับการฟื้นตัวพร้อมทั้งมั่นใจว่าแพลนบีจะสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องและนำไปสู่การเติบโตในระยะยาวอย่างยั่งยืน

ในไตรมาส 4/2564 บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานเท่ากับ 1,224 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 126 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 11.5 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3/2564 แบ่งออกเป็นรายได้จากสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยที่ 1,024 ล้านบาท และรายได้จากธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วมที่ 200 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์การระบาดระลอกใหม่ของ COVID-19 ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2564 จากสายพันธุ์ “โอมิครอน” ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่แพร่เชื้อได้เร็วกว่าเดิม ส่งผลกระทบให้เกิดความวิตกกังวลต่อการตัดสินใจใช้เม็ดเงินสื่อโฆษณาบางส่วน ขณะที่สถานการณ์ COVID-19 ในช่วงปลายปี 2563 มีสถานการณ์ที่ไม่รุนแรงมากนักพบว่ามีผู้ติดเชื้อในประเทศเท่ากับศูนย์ราย

ประกอบกับภาครัฐมีการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 หลายมาตรการ ซึ่งสามารถกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้ ทำให้รายได้จากการดำเนินงานในไตรมาส 4/2564 ไม่สามารถเปรียบเทียบได้โดยตรงกับรายได้จากการดำเนินงานในไตรมาส 4/2563

บริษัทมีกำไรสุทธิสำหรับผู้ถือหุ้นของบริษัทในไตรมาส 4/2564 และในปี 2564 อยู่ที่ 151 ล้านบาท และ 64 ล้านบาท ตามลำดับ จากการเติบโตที่เข้มแข็งของรายได้จากการดำเนินงาน รวมถึงความสามารถในการควบคุมค่าใช้จ่ายในการขาย จัดจำหน่าย และให้บริการ และค่าใช้จ่ายในการบริหาร (SG&A) ที่มีประสิทธิภาพของบริษัทอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทให้ความสำคัญในการพัฒนาปรับปรุงกระบวนการดำเนินงานอย่างรอบด้าน ปรับโครงสร้าง และเพิ่มระบบควบคุมภายในเพื่อเตรียมความพร้อมในการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง รวดเร็ว และก้าวกระโดด

บริษัทเดินหน้าพัฒนา Content และขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เข้าทำรายการเข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 100% ของกลุ่ม
สื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัย ของบริษัท อควา คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (“อควา”) เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายแพลนบีให้มีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้ทันทีในช่วงไตรมาส 2/2565 สะท้อนวิสัยทัศน์ของแพลนบีในการเป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรมและสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยที่มีความครอบคลุมถึงผู้บริโภคตลอดชีวิตประจำวันของการเดินทาง พร้อมสร้างเครือข่ายและการเติบโตให้กับธุรกิจอย่างไม่หยุดยั้งผ่านกลุ่มธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วม

บริษัทเชื่อมั่นว่าผลประกอบการธุรกิจสื่อโฆษณานอกที่อยู่อาศัยและธุรกิจการตลาดแบบมีส่วนร่วมยังสามารถเติบโตได้ในระยะยาว จากการมุ่งพัฒนาธุรกิจให้มีความหลากหลายสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุมพร้อมการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเพื่อรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น ดังจะเห็นได้จากผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2564

ที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด สามารถสร้างกำไรที่ดีที่สุดในรอบปี ถือเป็นสัญญาณบวกของการเริ่มฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภาพรวมพร้อมกับการกลับมาของอุตสาหกรรมสื่อโฆษณา ทั้งนี้ บริษัทมีความมั่นใจว่าหากสถานการณ์ COVID-19 มีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2565 บริษัทจะสามารถกลับมาฟื้นตัวได้อย่างเข็มแข็งอีกครั้งเพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน

อ้างอิง
https://www.bangkokbiznews.com/business